บทความวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน : นโยบายพรรคอนาคตใหม่



พรรคอนาคตใหม่ เปิด 12 นโยบายเลือกตั้ง เลิกเกณฑ์ทหาร-ตัดงบกองทัพ-แก้ทุนผูกขาด
และให้สวัสดิการครบวงจร ใช้เงิน 650,000 ล้านบาท

          ท่ามกลางปัญหาการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่มีบางคนไม่พอใจจนลาออกจากพรรคไป จนแกนนำพรรคต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจ ในวันนี้ พรรคอนาคตใหม่ก็เดินหน้าเปิดนโยบายของพรรค จำนวน 12 นโยบาย
ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และแกนนำของพรรคคนอื่นๆ เป็นผู้นำเสนอภายใต้ชื่องาน ‘เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต’


สำหรับนโยบายที่น่าสนใจ ได้แก่ นโยบาย ‘สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร’ ที่ดูแลคนไทยทุกช่วงชีวิตประกอบด้วย

- ขยายสิทธิในการลาคลอดของพ่อแม่เป็น 180 วัน
- ให้เงินดูแลบุตรที่มีอายุ 0-6 ปี เดือนละ 1,000 บาท/คน
- เรียนฟรี
- ให้เงินอุดหนุนเยาวชน อายุ 18-22 ปี เดือนละ 2,000 บาท/คน
- ลดชั่วโมงทำงาน จากสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง เหลือ 40 ชั่วโมง
- เพิ่มวันหยุดพักร้อนเป็น 10 วัน/ปี
- เพิ่มงบบัตรทองเป็น 4,000 บาท/คน
- เพิ่มเบี้ยคนชราเป็น 1,800 บาท/คน

ซึ่งทั้งหมดนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 650,000 ล้านบาท ที่จะมาจาก

1.งบเดิมที่มีอยู่ 280,000 ล้านบาท

2.งบใหม่ที่ได้มาจากโยกงบส่วนอื่นหรือหาแหล่งเงินใหม่ โดยจะไม่ใช้วิธีกู้เงินแม้แต่บาทเดียว รวม 370,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- ลดงบกระทรวงกลาโหม (50,000 ล้านบาท)
- กองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ (40,000 ล้านบาท)
- ลดสิทธิประโยชน์ BOI (30,000 ล้านบาท)
- ลดสิทธิลดหย่อนภาษีบางส่วน (58,000 ล้านบาท)
- ลดงบประจำและงบกลาง (110,000 ล้านบาท)
- ขึ้นภาษีที่ดิน (40,000 ล้านบาท)
- เอาหวยขึ้นมาไว้บนดิน (42,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย ‘ทลายเศรษฐกิจผูกขาด’ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายแข่งขันการค้าอย่างจริงจัง กระจายสัมปทานดิวตี้ฟรีในสนามบินไม่ให้มีแค่รายเดียว แต่กระจายไปยังรายย่อยอื่นๆ ให้ใบอนุญาตธนาคารที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัด และแก้ไขกฎหมายให้ธุรกิจสุรา-เบียร์ ไม่จำกัดแค่นายทุนรายใหญ่อีกต่อไป

และนโยบาย ‘ปฏิรูปกองทัพ’ ให้เป็นกองทัพสมัยใหม่ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แต่หันมาใช้วิธีสมัคร ยกเว้นเกิดศึกสงคราม, ปรับลดกำลังพลประจำการลงครึ่งหนึ่ง ให้เหลือเพียง 1.7 แสนนาย, ลดจำนวนนายพลจากปัจจุบัน 1,600 คน ให้เหลือเพียง 400 คน ฯลฯ

นี่คือนโยบายที่น่าสนใจบางส่วนของพรรคอนาคตใหม่ จากทั้งหมด 12 นโยบาย ท่ามกลางคำถามสำคัญที่ว่า จะนำไปปฏิบัติได้จริงแค่ไหน เพราะหลายๆ นโยบายจะต้องเผชิญหน้ากับโครงสร้างทางสังคมไทยที่มีอยู่เดิม เช่นเดียวกับหลายๆ นโยบายที่ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง

แต่ธนาธรก็ออกตัวไว้บนเวทีว่า นโยบายต่างๆ ที่เราเสนอไป ไม่ใช่แค่ต้องการคะแนนเสียงเท่านั้น แต่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมได้จริง เราคิดเยอะกว่า ลึกกว่า และไกลกว่า พร้อมชนกับต้นตอของปัญหา 

ที่มา The Matter


Comments

Popular posts from this blog

บทความสารคดี : เสือพูมา

บทความวิชาการ : กระบวนการสังเคราะห์แสง

วิจารณ์ภาพยนตร์ A Clockwork Orange